Trend Micro มองไกล 10 ปี เผยภัยไซเบอร์ปี 2030 ยิ่งกว่าหนังไซ-ไฟ! (Cyber Weekend)

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ปี 2021 ว่าเสียวไส้แล้ว แต่อีก 10 ปีข้างหน้า ภัยไซเบอร์จะยิ่งชวนขนพองขึ้นอีก เป็นสัญญาณว่าทุกคนทุกฝ่ายควรปรับตัวเพื่อรับมือกับโลกที่มีสถานการณ์เหมือนในภาพยนตร์ไซ-ไฟ

ริก เฟอร์กูสัน (Rik Ferguson) รองประธานฝ่ายวิจัยความปลอดภัยของบริษัท เทรนด์ ไมโคร ใช้เวลา 10 นาทีในงาน Trend Micro Perspectives 2021 อธิบายภาพคร่าวๆ ของภัยไซเบอร์ปี 2030 ได้อย่างตื่นใจ ผ่านเนื้อหาจากโครงการวิจัยล่าสุด ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกองค์กรและทุกประเทศสามารถมองเห็น ตามทัน และวางแผนในระยะยาวได้ทันท่วงที

โครงการนี้มีชื่อว่า ‘โปรเจกต์ 2030’ (Project 2030) ซึ่งเป็นภาคต่อหลังจากที่เทรนด์ ไมโครเคยโชว์รายงาน Project 2020 ในปี 2012 จนแม่นยำหลายเรื่องมาแล้ว ความน่าสนใจของโครงการใหม่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับสถิติในปี 2020 ที่เทรนด์ ไมโครชี้ว่าสำนักงานเอฟบีไอของสหรัฐอเมริกาได้รับการร้องเรียนมากกว่า 2,000 เรื่องทุกวันเกี่ยวกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต

จำนวนข้อร้องเรียนที่เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยคิดเป็นความเสียหายรวมกว่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.307 แสนล้านบาท สถิติทั้งหมดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่องตลอด 10 ปีจากนี้

เอวา เฉิน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทรนด์ ไมโคร ย้ำถึงความสำคัญที่ทุกคนจะต้องระวังตัวอย่างเร่งด่วน โดยบอกว่านาทีนี้อาชญากรไซเบอร์ยังคงโจมตีมากขึ้น เพราะในปี 2020 ขบวนการแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้น 34% และเซกเมนต์ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ รัฐบาล การธนาคาร การผลิต การดูแลสุขภาพ การเงิน การศึกษา เทคโนโลยี อาหารและเครื่องดื่ม น้ำมันและก๊าซ ตลอดจนการประกันภัยตามลำดับ

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานและพฤติกรรมของผู้ใช้ล้วนกำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยเฉพาะการใช้คลาวด์คอมพิวติ้งที่องค์กรควรต้องใช้เครื่องมือป้องกันที่ออกแบบมาเฉพาะทางสำหรับสถาปัตยกรรมการประมวลผลแบบคลาวด์

***เตรียมกลยุทธ์ระยะยาว

Project 2030 ที่ริก เฟอร์กูสันหยิบมาเล่านั้นไม่ได้เน้นทำนายอนาคตของภัยไซเบอร์ในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ใช้วิธีคาดการณ์ในเมืองสมมติ นั่นคือเมืองนิวซานโจแบน (New San Joban) ที่จะเป็นพื้นที่สมมติซึ่งรวมสถานการณ์จากการประเมินพื้นฐานภัยคุกคามและอาชญากรไซเบอร์ในปัจจุบัน รวมถึงคุณสมบัติหลักอื่นของระบบแวดล้อมสำหรับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

‘เราใช้ข้อมูลขององค์กรระหว่างประเทศเช่นตำรวจสากล องค์การสหประชาชาติ รวมถึงภัยไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ขยายไปนอกเหนือจากอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตที่มีแรงจูงใจทางการเงินร่วมกับการคาดการณ์ระยะสั้นของอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อให้ทราบว่าน้ำหนักของอุตสาหกรรมในปัจจุบันอยู่ที่ใด’

ริก บอกว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการเร่งใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่ในวันนี้ ล้วนเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีที่จะเป็นกระแสหลักในปี 2030 ทั้งระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ความแพร่หลายของ 5G และอุปกรณ์ IoT ที่จะมีผลโดยตรงกับวิถีชีวิตของผู้คนในอีก 10 ปีข้างหน้า เทรนด์ ไมโครจึงจำลองสถานการณ์ของบุคคลด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทผ่านผู้หญิงที่ชื่อเรสซิลลา (Resila)

เรสซิลลาและครอบครัวอาศัยอยู่ที่ใจกลางเมือง เธอทำงานจากบ้าน ใช้อุปกรณ์สวมใส่ได้เพื่อติดตามข้อมูลโภชนาการ และใช้บริการร้านค้าปลีก รวมถึงบริการสุขภาพเช่นเดียวกับหลายคนในเมือง

พฤติกรรมของผู้คนในยุคของเรสซิลลาเปลี่ยนไปจากคนยุคนี้ เพราะทุกอย่างจะอุดมด้วยเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อกันเพื่อจัดการข้อมูลตั้งแต่เรื่องอาหาร ร้านขายของชำออนไลน์ รวมถึงประสบการณ์การดื่มด่ำกับอาหารจากระบบพิมพ์ 3 มิติที่จะเกิดขึ้นที่บ้าน

***ไฮเทคกว่าเดิม

ที่โรงเรียน ลูกของเรสซิลลาจะไม่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีทำหรือการดำเนินการ เพราะการศึกษาในอนาคตจะมุ่งเน้นไปที่การประยุกต์หรือแปรรูปเป็นหลัก มากกว่าการเรียนเพื่อให้ได้ความรู้เหมือนยุคนี้

ยุคของเรสซิลลาจะเด่นเรื่องแอปพลิเคชันทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า มีการเอ่ยถึงเซลล์ดิจิทัลที่มีอายุยืนกว่าความตายของคนเรา มนุษย์ดิจิทัลยุคหน้าจะมีอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าใกล้กันมากขึ้น ทุกคนจะสามารถมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงพฤติกรรมทางอาญาที่อาจทำให้เกิดความสูญเสีย นำไปสู่การเรียกร้องเยียวยาทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้นเรสซิลลาทำงานในบริษัทภาคการผลิต ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่งาน DevOps หรือทีมพัฒนาและทีมปฏิบัติการจะถูกเปลี่ยนเป็นรูปแบบ Design Operations (DesOps) เพราะความจำเป็นต้องปรับแต่งสายการผลิตรูปแบบใหม่

จุดนี้ริกมองว่า การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ยังทำให้องค์กรเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานด้านการดูแลสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ และมีการพัฒนาวัสดุที่ซ่อมแซมตัวเองได้ เพื่อใช้ในงานโครงข่ายตั้งแต่สายเคเบิลในก้นมหาสมุทร ไปจนถึงระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมในสุดขอบอวกาศ

‘โครงสร้างพื้นฐาน สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยีการดำเนินงานระดับองค์กรทั้งหมดที่เป็นดิจิทัล รวมถึงการเปิดใช้งานเครือข่าย 5G ส่วนตัว แม้จะช่วยให้สามารถบำรุงรักษาระบบเชิงป้องกันได้อย่างแม่นยำ แต่พื้นที่การโจมตีก็ขยายกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด’ ริก ระบุ

ในขณะที่โลกอนาคตต้องการระบบยืนยันตัวตนแบบเรียลไทม์ ภัยโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญาก็จะยังคงเป็นปัญหาต่อไปเหมือนเดิม อาจนำไปสู่การก่อกวนหรือโจมตีด้วยข้อมูล ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ก็อาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกายในโลกความจริง

สถานการณ์เหล่านี้สะท้อนความกังวลของหน่วยงานรัฐในนิวซานโจแบน ที่จะต้องรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพลเมือง ซึ่งแม้จะมีการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่จูงใจให้เกิดพฤติกรรมที่ดีในเมืองอัจฉริยะ แต่สังคมในภาพรวมอาจมีความเหลื่อมล้ำสูงเพราะการเป็นสังคมไร้เงินสด รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ถือกันได้แบบไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งยังต้องติดตามผลกระทบของประเด็นนี้ในมุมภัยไซเบอร์

ในยุคที่ 5G แพร่หลาย ภัยวิดีโอปลอมหรือวิดีโอดัดแปลงจะเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะที่สาธารณชนยอมรับเนื้อหาที่สร้างโดย AI มากขึ้น ยังมีสภาพแวดล้อมประเภท AR และ VR ที่จะมีอิทธิพลมากขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งให้อาชญากรรมไซเบอร์ในยุคหน้าแนบเนียนมากขึ้น

ดังนั้น ภัยไซเบอร์ปี 2030 จึงยังมีบางส่วนที่คุ้นเคยกันดีในทุกวันนี้ เช่น การเข้าถึงหรือการบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต และการปิดกั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะการจัดการ การเปิดเผย รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดหรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งภัยเหล่านี้อาจเกิดขึ้นพร้อมกันก็ได้

***เนียนและหลบเก่ง

ภัยไซเบอร์ในปี 2030 จะมีผลกระทบที่ใหญ่กว่าภัยในยุค 2020 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงก้าวหน้าไป เทคนิคการสร้างความสับสนจึงพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นตามความสามารถของ AI ไปด้วย จุดนี้อาจทำให้ภัยไซเบอร์สามารถเรียนรู้และหลบเลี่ยงการดักจับได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การระบุแหล่งที่มาของอาชญากรไซเบอร์ทำได้ยากขึ้นตามไปด้วย

เมื่อถามว่าวิสัยทัศน์ภาพรวมภัยซิเคียวริตีใน 10 ปีข้างหน้าที่เทรนด์ ไมโครประเมินไว้ จะทำให้เกิดอิมแพกต์อะไรมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เทรนด์ ไมโครพุ่งเป้าไปที่องค์กร โดยอธิบายว่า ในอีก 10 ปีจากนี้ องค์กรมากกว่า 90% จะปรับระบบเป็นคลาวด์ บนพื้นฐานที่ต้องขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตทันท่วงทีกับยุคในอนาคต ดังนั้น เมื่อเทคโนโลยีเป็นบทบาทที่สำคัญ องค์กรจึงต้องวางแผนระบบรักษาความปลอดภัยหรือ Security Platform ให้รอบคอบ เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวได้

‘Security Platform จะมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุคหน้า ไม่ว่าจะเป็นสำหรับองค์กรธุรกิจ หรือส่วนตัวผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบัน เทรนด์ ไมโครมีการพัฒนาโซลูชัน Beyond Technology is Security Platform : VISION ONE’ เทรนด์ ไมโครระบุ

สำหรับ 3 ตัวเร่งที่ทำให้เกิดการเติบโตของตลาดซิเคียวริตีตั้งแต่ตอนนี้ถึง 10 ปีข้างหน้าคือ ภาวะที่มนุษย์เป็นจุดเริ่มต้น นำเทคโนโลยีมาใช้ดำเนินชีวิตและธุรกิจมากขึ้น รวมถึงการทำงานหรือกิจกรรมอื่นที่สามารถทำที่ไหนได้ขอเพียงมีระบบสื่อสาร และความยืดหยุ่นของการนำเครื่องมือมาใช้งาน เพื่อให้เกิดความง่ายและรวดเร็ว

ทั้ง 3 ปัจจัยตอกย้ำว่าตลอดช่วง 10 ปีนับจากนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือฉากไซ-ไฟในชีวิตจริงให้ดี ก็คือระบบ Security Platform ที่เทรนด์ ไมโครและอีกหลายเจ้าขายกันอยู่นั่นเอง

Leave a Comment