นายกฯเร่งกลไกขับเคลื่อน เกษตรไทยสู่“สมาร์ทฟาร์ม”

คนงานถูกเครื่องบดกระดาษบดขาสาหัส

ตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และ มูลนิธิปอเต๊กตึ้งร ถกู้ชีพโรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ เข้าตรวจสอบเหตุคนงานถูกเครื่องบดกระดาษดึงขาเข้าติดคาอยู่ในเครื่อง ภายในบริษัทผลิตกระดาษแห่งหนึ่ง ในตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังโรงงาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องจักรบดกระดาษ พบคนงานกำลังช่วยกันประคอง นายเมี้ยะเย อายุ 30 ปี คนงานชาวเมียนมา ซึ่งขาข้างซ้ายถูกเครื่องบดกระดาษเครื่องดังกล่าวดึงขาเข้าไปติดคาอยู่ภายในเครื่องไม่สามารถดึงออกได้

เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง ตัดลูกกลิ้งของเครื่องจักรตัวดังกล่าวออก เพื่อนำขาของนายเมี้ยะเย ออกมา พบว่า ขาท่อนร่างของนายเมี้ยะเย ถูกเครื่องจักร บดจนกระดูกแตกและเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้ให้การปฐมพยาบาลก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ

ผู้บาดเจ็บจึงใช้ขาข้างซ้ายเขี่ยกองกระดาษที่ติดคาอยู่หน้าเครื่อง เพื่อให้ลำเลียงเข้าเครื่อง แต่เกิดพลาดลื่นล้ม จึงถูกเครื่องจักรดึงขาช้างซ้ายเข้าไปติดคาอยู่ในเครื่องไม่สามารถดึงออกมาได้

เพื่อนคนงานที่เห็นเหตุการณ์ จึงรีบวิ่งไปปิดเครื่องจักรไว้ได้ทันก่อนที่จะพยายามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแต่ไม่สามารถนำขาของผู้บาดเจ็บออกมาได้ จึงขอความช่วยเหลือจาเจ้าหน้าที่

องค์ความรู้เรื่องข้าว

องค์ความรู้เรื่องข้าว ได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (The International Rice Research Institute - IRRI) ในการจัดทำภายใต้โครงการ Linking Extension and Research Needs through Information Technology (LEARN-IT) และมีธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) ให้การสนับสนุนงบประมาณ

องค์ความเรื่องข้าว ที่ได้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้น ได้รวบรวมข้อมูลไว้อย่างกว้างขวางเสมือนห้องสมุดดิจิตอล ซึ่งตอบสนองด้านการสืบค้นข้อมูล เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีในงานส่งเสริม

องค์ความเรื่องข้าว ประกอบด้วย สาระน่ารู้เรื่องข้าวทุกด้าน นับตั้งแต่ด้านพันธุ์ เทคโนโลยีการผลิต การอารักขาข้าว เครื่องจักรกลการเกษตร ตลอดถึงด้านการแปรรูปข้าว

เชื่อถือได้–เนื้อหา ในองค์ความเรื่องข้าวได้มาจากนักวิชาการ ผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆร่วมกันรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ และแก้ไขความถูกต้อง ก่อนที่จะมาอยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน

อุปสงค์นำ–องค์ความเรื่องข้าว บรรจุเนื้อหาสาระครบถ้วนทุกด้าน เพื่อตอบสนองผู้ใช้กลุ่มต่างๆได้เลือกใช้ในส่วนที่ต้องการ

เพิ่มคุณค่า–องค์ความเรื่องข้าว ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด มาใช้ในการรวบรวมข้อมูล และใช้เป็นเครื่องในการนำเสนอ

ใช้งานง่าย–องค์ความเรื่องข้าว มีเป้าหมายหลัก คือ เพื่อการถ่ายทอดสู่ชาวนา จึงอยู่ในรูปแบบที่ใช้งานง่าย

นายกฯเร่งกลไกขับเคลื่อน เกษตรไทยสู่“สมาร์ทฟาร์ม”

"คูโบต้า ฟาร์ม ”กำลังจะเป็นแหล่งบ่มเพาะองค์ความรู้ด้าน Smart Farming ที่จากนี้จะไม่ใช่คำพูดสวยหรูเกินเอื้อมอีกต่อไป เมื่อ นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมพบปะเกษตรกรต้นแบบสมาร์ทฟาร์มมิ่งที่คูโบต้าฟาร์ม ที่จังหวัดชลบุรี

โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การขับเคลื่อนเรื่องเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรให้กับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ซึ่งบางพื้นที่ประสบปัญหาการดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรกล เพราะเกษตรกรขาดความรู้ความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงรักษา และการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรก็ใช้งบประมาณสูง ดังนั้น ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในวงกว้างต่อไป เช่น การสร้าง Start up กลุ่มเกษตรอัจฉริยะ โดยสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษหรือเงินอุดหนุนแก่ Young Smart Farmer เพื่อนำไปบริหารจัดการหรือให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ การสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงเครื่องจักรกลโดยการรวมกลุ่มใช้/การจับคู่ (matching) เป็นต้น

นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรเกษตรกรรุ่นใหม่ ,ทำผลงานวิจัยเครื่องจักรกลในพื้นที่กับกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้งานโดยตรง รวมทั้งการเป็นพี่เลี้ยงด้านการใช้เทคโนโลยีให้กลุ่มเกษตรกรตั้งแต่ภาคการผลิตจนถึงการตลาด ส่วนสถาบันอาชีวศึกษาหรือวิทยาลัยเกษตรกรรมอาจจัดทำโครงการซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลให้กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเครื่องจักรกล รวมทั้งการติดตั้ง Internet Wifi ให้กว้างขวางมากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีทางการเกษตร ซึ่งการขับเคลื่อนและขยายผลนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการเกษตรและการส่งเสริมเครื่องจักรกลการเกษตรจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขจัดความยากจนและพัฒนาอย่างยั่งยืนของเกษตรกรไทยต่อไป “การทำเกษตรปัจจุบันต้องมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยดำเนินการในด้านการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพด้านการเกษตรให้มากขึ้น “

ทาคาโนบุ อะซึมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ตามเป้าหมายที่จะสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรไทยให้มีความแข็งแกร่ง มีความสามารถแข่งขันในตลาดโลก จึงพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการสนับสนุนนโยบายการพัฒนาภาคการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาของเกษตรกรไทยที่ยังประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิตสูง ราคาผลผลิตที่ไม่แน่นอน การขาดแคลนแรงงาน และการเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับเศรษฐกิจการเกษตรมหภาคบนพื้นฐานการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น การบริหารจัดการฟาร์มด้วยระบบควบคุมน้ำอัจฉริยะ สถานีวัดสภาพอากาศ โครงการระบบโซล่าร์เซลล์บนแปลงเกษตร การทำเกษตรที่ช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสอดคล้องกับนโยบาย Net Zero และวิธีลดต้นทุนการผลิตด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีทำนาเป็นการหยอดแห้งหรือปักดำด้วยรถดำนา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเมล็ดพันธุ์ได้กว่า 60-70 % และการไถกลบตอซังลดการเผาที่สามารถประหยัดค่าปุ๋ยได้ถึง 20 % รวมถึงการบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตรแบบรวมกลุ่ม ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน วราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า สยามคูโบต้าจึงได้จัดทำแนวทางการพัฒนาสมาร์ท ฟาร์มมิ่ง 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ การบูรณาการองค์ความรู้ ได้แก่ การลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก การให้ความรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งความรู้ด้านการเกษตร การเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นด้านการเกษตร การอบรมให้ความรู้ด้านนวัตกรรมเกษตร การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การติดตั้งสถานีวัดอากาศให้ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร การปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก อินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงง่ายและสัญญาณที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ การเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ สนับสนุนเรื่องการรวมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ระบบเช่าเครื่องจักรกลการเกษตรบนดิจิทัลแพลตฟอร์มจับคู่ผู้ให้บริการสำหรับเกษตรกรรายย่อย และ การตลาด สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการตลาดทั้งปริมาณความต้องการและราคาเผื่อวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ การขยายตลาดใหม่เพื่อความยั่งยืน สร้างโอกาสใหม่ในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการแปรรูปสินค้าเกษตร “ทั้งนี้ หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัล เชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายผลสมาร์ท ฟาร์มมิ่งได้ทั่วไทย ช่วยให้เกษตรกรเกิดความเชื่อมั่นในการประกอบอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ส่งผลให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง” สยามคูโบต้า มีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาโซลูชั่นให้ครอบคลุมจากต้นน้ำถึงปลายน้ำครบทุกความต้องการของเกษตรกร รวมถึงการแปรรูป การเพิ่มมูลค่าผลผลิต และเชื่อมโยงกับผู้ซื้อหรือตลาด​ พัฒนาสู่การเป็นเกษตรกรรมรายได้สูง เกษตรแม่นยำสมัยใหม่ และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม หรือ BCG Model สำหรับ“คูโบต้าฟาร์ม” เกิดจากการนำองค์ความรู้นวัตกรรมเกษตรครบวงจรซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคูโบต้า หรือ คูโบต้า อะกริ โซลูชัน (เคเอเอส) มาประยุกต์ใช้ใน 10 โซน บนพื้นที่ 220 ไร่ ในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ใช้งบลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น 200 ล้านบาท โดยขยายจากเดิมที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ 145 ล้านบาทเนื่องจากได้เพิ่มแปลงเรียนรู้ทางด้านพืชสวน จากจากเดิมที่มีพืชเศรษฐกิจ6 อย่างคือข้าวโพด ข้าว อ้อยยางพารามันสำปะหลังและปาล์มน้ำมัน จากที่เปิดให้บริการฟรี ตั้งแต่ปี 2563 พบว่ามีผู้สนใจเข้ามาเยี่ยมชมแล้วกว่า3หมื่นคน ทางคูโบต้าจึงมีแนวคิดจะขยาย ศูนย์เรียนรู้ในลักษณะนี้ตามจังหวัดอื่นๆแต่มีขนาดเล็กกว่า เช่น มหาสารคาม นครราชสีมา นครสวรรค์ และราชบุรี

Leave a Comment